ชิสุ (Shih tzu)

ชิสุ (Shih tzu)

ชิสุ เป็นสุนัขอีก 1 สายพันธุ์ ที่จัดได้ว่ามีความเก่าแก่ และมีถิ่นกำเนิดมาจากทิเบต ได้รับความนิยมหลากหลายในทวีปเอเชีย เช่นประเทศจีนและตั้งชื่อสายพันธุ์ว่าชิสุ ซึ่งมีความหมายว่าสิงโตน้อย สุนัขพันธุ์ชิสุ ในประเทศจีน มีลักษณะคล้ายสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง เนื่องจากพวกเขาได้ผสมพันธุ์กับสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง และถูกจัดอยู่ในสายพันธุ์ชนชั้นสูง พวกเดียวกับปักกิ่งและปัํก และยังเป็นสุนัขสุดหรูจากจักรพรรดิจีนอีกด้วย โดยเรื่องราวในประวัติศาสตร์ว่าพระธิเบตมอบสุนัขพันธุ์ชิสุให้จักรพรรดิจีนเป็นของกำนัล สุนัขพันธุ์นี้เลยได้เป็นที่รู้จักในอาณาจักรจีตั้งแต่ปี ค.ศ.1903 มาจนถึงปัจจุบัน ในขณะเวลาต่อมาแถบทวีปยุโรปประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ได้นิยมเลี้ยงชิสุเป็นอย่างมากทำให้สุนัขพันธุ์นี้มีความนิยมมากยิ่งขึ้น และ ปี ค.ส.1935 สุนัขพันธุ์ชิสุได้มีการพัฒนาสายพันธุ์และลักษณะประจำสายพันธุ์มากขึ้น จึงทำให้ถูกลงทะเบียนอีกครั้งเป็นพันชิสุ แยกออกจากสุนัขยุโรปอย่างชัดเจน และได้ถูกนำมาเลี้ยงอย่างอเมริกาโดยทหารอเมริกาที่กลับมาจากทวีปยุโรป จึงได้เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นไปในทั่วโลกอีกด้วย

ลักษณะนิสัยของ ชิสุ (Shih tzu)

สุนัขพันธุ์ชิสุ เป็น สุนัขพันธุ์เล็ก และมีนิสัยที่โดดเด่นที่สุดคือเป็นมิตรต่อผู้คนและผู้เลี้ยง และสุนัขพันธุ์นี้จะไม่ค่อยอารมณ์เสียมากนัก และน้อยครั้งมากที่จะแสดงอาการหงุดหงิดออกมาให้เห็น ซึ่งพวกเขามีความอ่อนโยน ไม่จู้จี้จุกจิก และยังต้องการความรักและชอบก่อน จากเจ้าของและข้อเคลียร์อีกด้วย แต่จะมีการเห่าบ่อยครั้งเพื่อแจ้งสัญญาณอันตราย หรือเหตุอื่นบางประการบางครั้ง เขามีขนยาวนุ่มฟู  2 ชั้น ปากสั้น ตาดำสนิท จมูกค่อนข้างแบน และน่ารัก พาไปเที่ยวได้ง่ายสะดวกสบาย และพวกเขามีความอ่อนโยนเป็นอย่างมาก ซึ่งจะไม่เห่าเสียงดังส่งเสียงรำคาญต่อผู้อื่น และชิสุมีสีขนหลากหลายมากถึง 10 สีด้วย เช่น สีเทา สีน้ำตาล สีเทาหม่น สีดำล้วน สีขาวล้วน สีน้ำตาลช็อกโกแลต และหลากหลายสีอื่นๆแตกต่างกันออกไปตามลักษณะของสายพันธุ์ สุนัขชิสุจะมีน้ำหนักอยู่ประมาณ 4-8 กิโลกรัม ขนาดความสูงของเขาอยู่ประมาณ  7-12 นิ้ว และจะมีอายุไขอยู่ราวๆ  10-16 ปี แล้วแต่สุขภาพและการดูแลจากผู้เลี้ยง

การดูแลน้องหมา ชิสุ

  • การดูแลเบื่องต้น ชิสุเป็นสุนัข ที่ชอบทำกิจกรรมเช่น ชอบเดินเล่นและออกกำลังกายเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากเจ้าตัวเป็นสุนัขพันธุ์เล็กจึงไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายจนมากเกินไป แค่พระภิกษุเดินเล่นหรือเดินให้ไว และวิ่งรอบสวนสาธารณะ และการช่วยออกกำลังกายจะช่วยป้องกันและคงพฤติกรรมสุนัขไว้  1 อย่างที่ควรระวัง สุนัขพันธุ์นี้จะมีอุณหภูมิภายในตัวสูงขึ้นและเร็วมาก จึงควรสังเกตสุนัขขณะเล่นเป็นประจำ โดยเฉพาะยิ่งฤดูร้อนยิ่งต้องสังเกตให้ดี หากมีอาการผิดปกติควรให้หยุดพักในการทำกิจกรรมและพาเข้าร่มและอยู่ที่เย็น และควรพาไปพบแพทย์ในที่สุด ซึ่งพวกเขาจะมีขนที่ยาวควรอาบน้ำให้เขาเป็นประจำอยู่เสมออย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง หรือหวีขน เพื่อไม่ให้ยุ่ง เพื่อสุขภาพขนของเจ้าตัวอีกด้วย 
  • การออกกำลังกาย

     เจ้าตัวเล็กชิสุ เมื่อพาไปออกกำลังกายนอกบ้าน เจ้าของสุนัขควรตรวจสอบสภาพอากาศให้แน่ใจว่าไม่ร้อนจนเกินไป และกิจกรรมการออกกำลังกายของพวกเขาไม่ควรจะหนักหน่วงจนเกินไปอีกด้วย ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะสมของพวกเขาคือ การออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะ  หรือเดินเล่นแถวบ้าน สัก 2 ครั้งต่อวัน ซึ่งใช้เวลาประมาณครั้งละ 20 นาที แต่ถ้าในช่วงหน้าร้อนให้เจ้าของพวกน้ำดื่มติดตัวไปด้วยเพื่อให้เขาทานได้ตลอดเวลา แต่ถ้าหน้าหนาวแนะนำให้ใส่เสื้อเพื่อร่างกายพวกเขาจะได้อบอุ่นอยู่ตลอด

  • ปัญหาสุขภาพ ชิสุก็เป็นอีกสุนัขสายพันธุ์หนึ่งที่มักจะมีรูปเช่นกัน ก็หลวงของพวกเขาแบนและใหญ่ แถมยังมีจมูกและปากที่สั้น จึงทำให้พวกเขาหายใจได้ลำบาก บวกกับระบบทางเดินหายใจที่ผิดปกติ และสุนัขสายพันธุ์นี้จึงไม่ค่อยมีเสียงหอบเสียงดังเหมือนสุนัขสายพันธุ์อื่นอย่างแน่นอน และเจ้าตัวยังมีรูจมูกที่แคบ จึงส่งผลให้หายใจลำบากและไม่สามารถสูญหายใจได้ลึกๆ ในช่วงหน้าร้อนเจ้าของควรสังเกตอยู่เสมอว่าเตรียมน้ำให้พวกเขาอย่างเพียงพอหรือไม่ และที่สุดมักจะมีอาการติดเชื้อทางใบหูและดวงตา ผิวบอบบาง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ได้ ในช่วงสูงวัยของสุนัขสายพันธุ์นี้จะมีแนวโน้มที่จะเกิดต้อกระจกอย่างเห็นได้ชัด เจ้าของสุนัขควรพบและปรึกษาสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำทุกปี
  • โภชนาการ และ อาหารที่เหามะสม สำหรับสุนัขสายพันธุ์ชิสุแล้วอาหารของพวกเขาจะแตกต่างไปตามช่วงอายุ และกิจกรรมในแต่ละวันที่ทำ ซึ่งไข่และเนื้อไก่จะเป็นแหล่งโปรตีนให้พวกเขาซึ่งสำคัญเป็นอย่างมาก และพวกเขาควรเลี่ยงช็อกโกแลต หัวหอม เนื้อดิบ ไข่ดิบ และกระเทียม เป็นอาหารที่ควรเลี่ยงสำหรับพวกเขาเป็นอย่างมาก แนะนำการให้อาหารสำหรับพวกเขาให้เพียงพอต่อวัน คือ 2 มื้อต่อวัน จึงจะเพียงพอ